ปี 2018 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมากสำหรับเวียดนาม ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ หรือการเติบโตทางเทคโนโลยี แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดจากการประท้วงครั้งใหญ่ที่ส่งสั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากร่างกฎหมายไซเบอร์ความมั่นคงซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการคุกคามต่อเสรีภาพในการแสดงออกบนอินเทอร์เน็ต
ผู้ริเริ่มการเคลื่อนไหวครั้งนี้คือ มาร์ค ซัน (Marc Sun) นักกิจกรรมและนักเขียนอิสระที่มีชื่อเสียงในเวียดนาม เขากล่าวว่าร่างกฎหมายไซเบอร์ความมั่นคงของรัฐบาลเป็น “เครื่องมือในการควบคุมและเซ็นเซอร์” และจะทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในเวียดนามต้องอยู่ในเงาของการถูกคุกคามจากรัฐ
ซันเริ่มต้นแคมเปญออนไลน์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวต่อความเสี่ยงของร่างกฎหมายนี้ แคมเปญของเขาได้รับความสนใจอย่างมาก และผู้คนจำนวนมากในเวียดนามและต่างประเทศร่วมลงชื่อในคำร้องขอให้รัฐบาลเวียดนามยกเลิกร่างกฎหมายดังกล่าว
เมื่อเวลาผ่านไป การประท้วงบนโลกออนไลน์ก็ลุกลามไปสู่การประท้วงบนท้องถนน ผู้คนนับพันมารวมตัวกันหน้าสำนักงานรัฐบาลในกรุงฮานอยและเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ พวกเขาถือป้าย标语ที่วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายไซเบอร์ความมั่นคง และเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามเคารพเสรีภาพในการแสดงออก
รัฐบาลเวียดนาม initially ลงมาเจรจากับผู้ประท้วง แต่ในที่สุดก็ใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ พวกเขาจับกุมผู้ประท้วงหลายคน และบล็อกเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สนับสนุนการเคลื่อนไหว
แม้ว่าร่างกฎหมายไซเบอร์ความมั่นคงถูกผ่านเป็นกฎหมายในที่สุด แต่การประท้วงครั้งนี้ก็ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมเวียดนาม มันแสดงให้เห็นถึงอำนาจของการกระทำร่วมกัน และความไม่พอใจของประชาชนต่อการจำกัดเสรีภาพ
มาร์ค ซัน: ผู้จุดประกายการเปลี่ยนแปลง
มาร์ค ซัน เป็นนักกิจกรรมและนักเขียนอิสระชาวเวียดนามที่เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้สนับสนุนสิทธิพลเมืองของประเทศเขา
ซัน เกิดในปี 1985 และเติบโตขึ้นมาในฮานอย เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แต่ความสนใจของเขาทั้งหมดคือการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน
ซันเริ่มต้นอาชีพนักเขียนอิสระในปี 2010 และบทความของเขาปรากฏบนเว็บไซต์ข่าวและบล็อกต่างๆ ที่เน้นเรื่องสิทธิพลเมือง, ประชาธิปไตย, และการต่อต้านการคุกคาม
หลังจากการประท้วงที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายไซเบอร์ความมั่นคง มาร์ค ซัน กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเวียดนามและต่างประเทศ แม้ว่าเขาจะถูกรัฐบาลเวียดนามจับกุมหลายครั้ง แต่เขาก็ยังคงต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองอย่างไม่ย่อท้อ
ผลกระทบจากการประท้วง
การประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายไซเบอร์ความมั่นคงในปี 2018 มีผลกระทบที่สำคัญต่อเวียดนาม:
-
การเพิ่มขึ้นของการรับรู้เรื่องสิทธิพลเมือง: การประท้วงนี้ทำให้ประชาชนเวียดนามตระหนักถึงความสำคัญของเสรีภาพในการแสดงออกและ quyềnในการเข้าถึงข้อมูล
-
การกดดันรัฐบาล: รัฐบาลเวียดนามถูกกดดันจากนานาชาติให้เคารพสิทธิพลเมืองและเสรีภาพของประชาชน
-
การเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของรัฐบาล: รัฐบาลเวียดนามเริ่มที่จะมีความระมัดระวังมากขึ้นในการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต
บทเรียนจากเวียดนาม: เสรีภาพ vs. ความมั่นคง
การประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายไซเบอร์ความมั่นคงในเวียดนามเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพและความมั่นคง
รัฐบาลมีหน้าที่ในการปกป้องความมั่นคงของประเทศ แต่ก็ไม่ควรละเมิดสิทธิพลเมือง
การประท้วงครั้งนี้เน้นย้ำความสำคัญของการมีเสียงในสังคม และการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง การประท้วงยังเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับรัฐบาลทั่วโลกในการเคารพเสรีภาพและสิทธิของประชาชน
ตารางแสดงผลกระทบจากการประท้วง:
ผลกระทบ | |
---|---|
การเพิ่มขึ้นของการรับรู้เรื่องสิทธิพลเมือง | |
การกดดันรัฐบาลให้เคารพสิทธิพลเมือง | |
การเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของรัฐบาลในการควบคุมความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต |