อาร์มาดา (Armada) เป็นคำสเปนที่แปลว่า “กองเรือ” และในประวัติศาสตร์โลก คำนี้มักถูกใช้เพื่ออ้างถึง กองทัพเรือขนาดใหญ่ของฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน ซึ่งรุกคืบมายังเกาะอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1588 การล่มสลายของกองทัพอาร์มาดา เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจในยุโรป และเป็นตัวอย่างของความทะเยออยาที่ล้มเหลว
ฟิลิปที่ 2 เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสเปน ซึ่งปกครองอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาลและร่ำรวยจากการล่าอาณานิคม และมีอำนาจเหนือดินแดนในยุโรปและอเมริกา
พระองค์ต้องการกำจัดศาสนาโปรเตสแตนท์ที่กำลังแผ่ขยายในอังกฤษ และด้วยความมั่นใจในอำนาจทหารเรือของสเปน พระองค์จึงทรงวางแผนที่จะบุกยึดอังกฤษ ซึ่งปกครองโดยสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1
กองทัพอาร์มาดาประกอบด้วยเรือรบกว่า 130 ลำ และมีทหารประมาณ 27,000 นาย การเตรียมการครั้งนี้มหึมาและเป็นความลับอย่างยิ่ง แต่ข่าวลวงได้แพร่กระจายไปยังฝ่ายอังกฤษ
สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 ทรงส่งกองเรือของอังกฤษออกต่อสู้กับกองทัพอาร์มาดา ซึ่งนำโดยพลเอกเซอร์ฟรานซิส เดรก และนายพลชาร์ลส์ ฮ Howard
- ความเหนือกว่าทางยุทธศาสตร์ของอังกฤษ: กองเรืออังกฤษมีเรือขนาดเล็กและคล่องแคล่วกว่า กองทัพอาร์มาดา ทำให้สามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็ว และหลบหนีจากการโจมตีของกองเรือสเปน
- อาวุธที่ทันสมัย: กองทัพเรืออังกฤษติดตั้งปืนใหญ่ขนาดใหญ่และแม่นยำกว่า ซึ่งสามารถทำลายเรือรบสเปนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การล่มสลายของกองทัพอาร์มาดา : สาเหตุและผลกระทบ
การรบครั้งสำคัญเกิดขึ้นนอกชายฝั่งอังกฤษ และกองทัพอาร์มาดาถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากกองเรืออังกlish
ด้วยความเหนือกว่าทางยุทธศาสตร์และอาวุธที่ทันสมัย กองทัพอาร์มาดาได้รับความเสียหายอย่างหนัก และส่วนใหญ่ต้องถอยกลับไปสเปน
การล่มสลายของกองทัพอาร์มาดา เป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สำหรับฟิลิปที่ 2 และเป็นจุดสิ้นสุดของความทะเยออยาในการสร้างจักรวรรดิสเปนที่ยิ่งใหญ่
เหตุการณ์ | ลักษณะ |
---|---|
การเตรียมการลับ | สเปนพยายามปกปิดแผนการบุกอังกฤษ |
กองทัพเรือขนาดใหญ่ | 130 เรือรบและ 27,000 ทหาร |
การต่อสู้รุนแรง | กองทัพอาร์มาดาถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากกองเรืออังกฤษ |
การล่มสลายของกองทัพ | ส่วนใหญ่ต้องถอยกลับไปสเปน |
ผลกระทบต่อประวัติศาสตร์
การล่มสลายของกองทัพอาร์มาดา มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์ยุโรปและโลก:
-
ความเสื่อมลงของจักรวรรดิสเปน: การพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้จักรวรรดิสเปนเสียศักยภาพทางการทหาร และเริ่มต้นของการเสื่อมลง
-
การ उद้ยของอังกฤษ: อังกฤษกลายเป็นมหาอำนาจทางทะเล และเข้าสู่ยุคทอง
สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 ได้รับฉายาว่า “ราชินีผู้เอาชนะ” จากชัยชนะครั้งนี้
-
การเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจ: การล่มสลายของกองทัพอาร์มาดา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจในยุโรป และนำไปสู่สงครามและความขัดแย้งอื่น ๆ
หลุยส์ เด กอนซาเลซ (Luis de Góngora)
จากเหตุการณ์นี้ เราย้อนกลับไปยังศตวรรษที่ 17 เพื่อพินิจพิเคราะห์งานของ หลุยส์ เด กอนซาเลซ (Luis de Góngora) บรมกวีสเปนผู้มีชื่อเสียง
หลุยส์ เด กอนซาเลซ เป็นตัวอย่างของความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและวรรณกรรมของสเปนในช่วงบาร์โรค
งานของเขาโดดเด่นด้วยสำนวนที่ประณีต ซับซ้อน และเต็มไปด้วยอุปมา
หลุยส์ เด กอนซาเลซ เป็นกวีผู้เชี่ยวชาญด้านบทกวีความรัก บทกวีศาสนา และบทกวีเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของมนุษย์
เขาถือเป็นหนึ่งในกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสเปน และมีอิทธิพลอย่างมากต่อวรรณคดีสเปนและยุโรป
ผลงานสำคัญ
- Soledades (ความเดียวดาย): บทกวีสั้น ๆ ที่สำรวจหัวข้อความรัก ความสูญเสีย และความเป็นอยู่ของมนุษย์
- Fábula de Polifemo y Galatea (ตำนานของ Polyphemus และ Galatea): บทกวีบทหนึ่งที่ร่ายเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและการหึงหวงของเทพเจ้ากรีก
หลุยส์ เด กอนซาเลซ เป็นตัวอย่างของความสามารถทางศิลปะและวัฒนธรรมของสเปนในช่วงบาร์โรค